รีวิว ISUZU MU-X Minorchange 2024 เปลี่ยนอะไรบ้าง ปังหรือแป้ก

ส่อง Isuzu MU-X Minorchange ที่มาพร้อมคอนเซปต์ “THE NEXT PEAK” ความพีกครั้งนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง น่าสนใจกว่าเดิมเปล่า มาดูรายละเอียดไปพร้อมๆ กัน

ISUZU MU-X Minorchange 2024 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดมากของ MU-X Minorchange 2024 ก็คือเรื่องราคาและรุ่นย่อยของ MU-X “THE NEXT PEAK” มีการตัดรุ่นย่อยออก ก็คือรุ่น 1.9 Luxury ของ MY 2022 และเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ในการแต่งหน้าทาปากปี 2024 นี้ ก็คือรุ่นท็อปที่สุด RS ซึ่งกลายเป็นว่าปัจจุบันจะมีรุ่นและราคาดังนี้

ราคา MU-X Minorchange รุ่น ACTIVE

• 1.9 ACTIVE AT 2WD ราคา 1,184,000 บาท

ราคา Isuzu MU-X MY 2022 รุ่น ACTIVE อยู่ที่ 1,119,000 บาท นั่นหมายความว่าการ Minorchange ครั้งนี้ ราคาเพิ่มขึ้น 65,000 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้น

ราคา MU-X Minorchange รุ่น ELEGANT

• 1.9 ELEGANT AT 2WD ราคา 1,419,000 บาท
• 3.0 ELEGANT AT 2WD ราคา 1,464,000 บาท

ราคา Isuzu MU-X MY 2022 รุ่น ELEGANT ตัวเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร จะอยู่ที่ 1,359,000 บาท และ เครื่องยนต์ 3.0 ลิตร จะอยู่ที่ 1,404,000 บาท หมายความว่าการ Minorchange ครั้งนี้ ราคาเพิ่มขึ้น 60,000 บาท ทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์

ราคา MU-X Minorchange 2024 รุ่น ULTIMATE

• 1.9 ULTIMATE AT 2WD ราคา 1,544,000 บาท
• 3.0 ULTIMATE AT 2WD ราคา 1,589,000 บาท

ราคา Isuzu MU-X MY 2022 รุ่น ULTIMATE รุ่นเครื่องยนต์ 1.9 ลิตร จะมีราคาอยู่ที่ 1,454,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร จะอยู่ที่ 1,499,000 บาท หมายความว่าการ Minorchange ครั้งนี้ทั้งสองรุ่นเครื่องยนต์ ราคาเพิ่มขึ้น 90,000 บาท

ราคา MU-X Minorchange รุ่น RS

• 3.0 RS AT 2WD ราคา 1,659,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)
• 3.0 RS AT 4WD ราคา 1,759,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่)

สรุปแล้วเรื่องราคาของ Isuzu MU-X Minorchange 2024 “THE NEXT PEAK” ก็ค่อนข้างพีกเอาเรื่องอยู่สำหรับราคา แพงขึ้นราวๆ 60,000 - 90,000 บาท จากรุ่น MY 2022 แต่อย่าพึ่งบ่นว่าเขาแพง ราคาเพิ่มขึ้นก็ต้องมีอะไรเพิ่มขึ้นด้วย ไปกันต่อครับ!

Isuzu MU-X 2024 เครื่องยนต์เปลี่ยนไหม?

Isuzu MU-X 2024 ใช้เครื่องยนต์ 2 ขนาดเหมือนเดิม คือ

1. เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 VGS Turbo รหัส RZ4E-TC ขนาด 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 2,600 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode + – ขับเคลื่อน 2 ล้อ รองรับน้ำมันสูงสุด ดีเซล B20 พร้อมระบบ DPF : Diesel Particulate Filter Regeneration ทำความสะอาดคราบเขม่า

2. เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 VGS Turbo รหัส 4JJ3-TCX ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อม Turbocharger VGS แบบครีบแปรผัน และ Intercooler กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ แบบ Sequential Shift พร้อม Manual Mode + – ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ รองรับน้ำมันสูงสุด ดีเซล B20 พร้อมระบบ DPF : Diesel Particulate Filter Regeneration ทำความสะอาดคราบเขม่า

ตัวเครื่องยนต์ใช้เป็นเครื่องยนต์เดิมเป๊ะๆ ทั้งขนาด 1.9 ลิตร Turbo และ ขนาด 3.0 ลิตร Turbo เหตุผลที่ MU-X THE NEXT PEAK ยังคงใช้เครื่องยนต์เดิมนั่นก็เพราะว่าเครื่องยนต์ 2 ตัวนี้ผ่านมาตรฐาน EURO 5 มาตั้งนานแล้ว

แต่ในการเปลี่ยนแปลงรอบนี้ก็เหมือนจะเปลี่ยนท่อแคทตาไลติกใหม่ให้กรองดีขึ้นและมีการเพิ่มระบบ DPF ที่เราต้องกดเพื่อเผาทำความสะอาดคราบเขม่า โดยไม่ต้องเติม Adblue เหมือนกับที่ค่ายอื่นๆ เขาเริ่มทำกัน

ช่วงล่างของ MU-X Minorchange ดีขึ้นหรือเปล่า?

ตัวช่วงล่างและโครงสร้างยังคงใช้แบบเดิม คือ โครงสร้างตัวถัง ISUZU Symmetric Mobility เสริมเหล็ก ULTRA – HIGH TENSILE ที่มาพร้อมช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนก 2 ชั้น Double Wishbone คอยล์สปริง เหล็กกันโคลง และช็อกอัป กับช่วงล่างด้านหลัง แบบ 5-Link Suspension พร้อมเหล็กกันโคลงและช็อกอัป

ทั้งสี่ล้อใช้ระบบดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน มีทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ 4WD Rough Terrain Mode ประกอบด้วยโหมด

• 2H ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ใช้ทั่วไปตามถนนปกติ
• 4H ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อความเร็วสูง ใช้สำหรับขับบนท้องถนนที่มีความเปียกลื่น
• 4L ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ต้องการแรงบิดมากเป็นพิเศษ ใช้สำหรับทางขรุขระ ส่วนล้อและยางเป็นไซซ์เดิมเพิ่มเติมคือลายใหม่ไม่ซ้ำกันสักรุ่น

พูดง่ายๆ คือ ช่วงล่างและระบบการขับขี่ต่างๆ เหมือนเดิม เพิ่มเติมแค่ลายล้อใหม่ไม่ซ้ำกันสักรุ่นย่อยเท่านั้นเอง คาดว่าความรู้สึกในการขับขี่น่าจะเหมือนเดิม แต่ขับแล้วหล่อขึ้น

ความรู้สึกจะออกแนวนุ่มๆ ไม่ค่อยเด้งหรือแข็งกระด้างเกินไป ออกอาการย้วยโยนบ้างตามสไตล์รถคันใหญ่ แต่นี่ก็แค่การคาดการณ์ การขับขี่จริงจะเป็นอย่างไรต้องรอติดตามกันต่อสำหรับ MU-X Minorchange

MU-X Minorchange 2024 ดีไหม มีอะไรพีกบ้าง ?

การแต่งหน้าทาปากครั้งนี้ทำให้ MU-X ดูทรงพลังและดุดันมากยิ่งขึ้นจากแต่ก่นที่ออกแนวเน้นหรู แต่มาคราวนี้ดูแอบคล้ายรถยุโรปอยู่นะเนี่ย บอกเลยว่าดุดันขึ้นกว่าเดิม เป็นการปรับโฉมที่ดูแล้วเหมาะกับวัยรุ่นวัยทำงานมากยิ่งขึ้น ทั้งที่ปกติรถ PPV แบบนี้จะออกแนวรถครอบครัวหรือรถลุยๆ ที่เหมาะกับคนมีอายุนิดนึง

1. ภายนอก MU-X รุ่น RS : ล้อสวยที่สุดในกลุ่ม PPV

รุ่นย่อยใหม่ RS ได้กระจังหน้าใหม่ Black Diamond Grille แบบใหญ่เบิ้ม สะท้อนความพีกด้วยสัญลักษณ์ RS ซึ่งเป็นวัสดุ Black Chrome เพิ่มโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบใหม่ Dynamic Blade ที่ดูหล่อและดุขึ้นกว่าเดิม ตัวไฟท้ายมีเส้น Embrace Line ทำให้มันดูสวยและดีไซน์ให้เหมือนว่าถูกเชื่อมกันสองฝั่ง

ชุดกันชนหน้าใหม่แบบ Fighter Jet เสริมความดุพร้อม Air Curtain เพิ่มประสิทธิภาพของอากาศพลศาสตร์ มาพร้อมกับสีใหม่ล่าสุด Eiger Gray Opaque และหลังคาดำ Black Roof พร้อมสัญลักษณ์ RS โดดเด่นเท่สะดุดตาด้วยสี Lime Green ทำให้รุ่นใหม่นี้ยิ่งหล่อคล้ายรถยุโรปเข้าไปใหญ่

ที่สำคัญ คือ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่แบบ RS Design ขนาด 20 นิ้วที่เพิ่มความสปอร์ตด้วย Fender Garnish สีดำ และ Side Garnish สัญลักษณ์ RS ที่ไม่มีรุ่นย่อยไหนเหมือน เป็นชุดล้อที่ดีไซน์มาได้โคตรสวยมาก ไม่เคยเจอล้อรถ PPV ค่ายไหนสวยเท่าชุดนี้ และมันก็เสริมความดุในรุ่น RS ได้ดีมากซะด้วยสิ

2. ภายในของ MU-X รุ่น RS : หรูหรากว่าเดิม เทียบชั้นรถยุโรป

ภายในของ MU-X ตัวใหม่ปี 2024 อย่างรุ่น RS มาพร้อมการออกแบบครั้งใหม่ที่ช่วยยกระดับบรรยากาศห้องโดยสารให้พีกกว่าเดิมด้วยโทนสีดำที่ทำให้ดูเหมือนรถยุโรปมาก แต่ไม่บอกหรอกนะว่าหล่อเหมือนค่ายไหน!

ตกแต่งด้วย Matte Silver Garnish ที่ดูเพอร์เฟกต์ทุกองศา มาพร้อมเบาะนั่งดีไซน์สปอร์ตแบบใหม่พร้อมสัญลักษณ์ RS บนหัวเบาะ ตัวเบาะนั่งสบายและโอบรับสรีระได้ดี และเด่นขึ้นด้วยการเดินด้ายสี Lime Green ตัดลงบนวัสดุสีดำรอบคัน นี่มันรถยุโรปป่าวเนี่ย!

ซึ่งในห้องโดยสารรุ่น RS จะมีสิ่งที่ไม่เหมือนรุ่นอื่นก็คือไฟสร้างบรรยากาศภายในจะเป็นสีแดง Red Ambient Light ซึ่งรุ่นย่อยอื่นไม่มีเพราะเป็นสีขาวหมด คอนโซลสีดำดีไซน์ใหม่เหนือระดับทุกรายละเอียด ตกแต่งด้วย Matte Silver

สิ่งที่เพิ่มเข้ามา คือ มีกล้องรอบคัน 360° Surround View Camera ให้ภาพคมชัดแบบ 3D พร้อมมุมมองใต้ท้องรถ

สำหรับรุ่น RS มาพร้อมพวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายเหนือกว่า คล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง

มาพร้อมจอใหม่ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัสรองรับ Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay และ Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อและอื่นๆ

Smart Tailgate with Step Sensor ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection ที่นั่งโดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch

3. ระบบความปลอดภัยรุ่น RS อัดมาให้เยอะขึ้น

สิ่งที่เพิ่มมาใหม่ในรุ่น RS

ADAS Generation ล่าสุด! มาพร้อมกล้องหน้าคู่ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน

• ใหม่! ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) 
• ใหม่! ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist) 
• ใหม่! ELK & BSM ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Lane Keeping) 
• ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Warning)
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) พร้อม ระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and GO ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) 
• ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
• ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring) 
• ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System 
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking) 
• ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam) 
• ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation) 
• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake) 
• ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
• เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย Active & Passive Safety 
• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) และระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System)
• ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
• ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)
• โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile แกร่ง และทนทาน

4. MU-X Minorchange รุ่น ULTIMATE : กลายเป็นตัวรองท็อป แต่ Modern Luxe กว่าเดิม

การออกแบบใหม่ของ THE PEAK OF ULTIMATE DESIGN พลิกโฉม MU-X ให้โดดเด่นและพรีเมี่ยมขึ้นผ่านเส้นสายภายนอกที่มีความ Dynamic ด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ Dynamic Grille ที่หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide และโฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade ที่ดูสวยด้วยด้วยเส้น Embrace Line และล้ออัลลอยใหม่ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II ดีเทลก้านแบบ 3D

ภายในเองก็ออกแบบใหม่เช่นกันเพื่อยกระดับความหรูภายในห้องโดยสารให้ Modern Luxe กว่าเดิม ด้วยโทนสี Truffle Brown - Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class

มากับเบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่ สี Truffle Brown ที่นั่งสบาย โอบรับสรีระ ด้วยวัสดุ Cool Max ช่วยลดการสะสมความร้อน และคอนโซลดีไซน์ใหม่สี Truffle Brown พรีเมี่ยมด้วยวัสดุ Piano Black - Satin Silver ที่มาพร้อม White Ambient Light

สิ่งใหม่ใน MU-X รุ่น ULTIMATE

ถึงแม้รอบนี้จะกลายเป็นรุ่นรองท็อปแต่ก็ยังมาพร้อมพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ที่ขับสบายเหนือกว่าคล่องตัวทั้งในเมืองและนอกเมือง

ภายในได้เจอ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay พร้อม Multitasking System เชื่อมต่อข้อมูลกับ Integrated MID แสดงผลได้หลากหลายฟังก์ชัน เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ ADAS ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ

Smart Tailgate with Step Sensor ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection ที่นั่งโดยสาร 7 ที่นั่ง

เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch และมีตัวเลือกสีใหม่ Eiger Gray Opaque เหมือนตัวท็อป และยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยอีกเยอะ

สิ่งที่เพิ่มมาใหม่ในรุ่น ULTIMATE

ADAS Generation ล่าสุด เหมือนกับตัว RS มาพร้อมกล้องหน้าคู่ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน

• ใหม่! ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System) 
• ใหม่! ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist) 
• ใหม่! ELK & BSM ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency Lane Keeping) 
• ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (Lane Departure Warning)

• ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชัน Stop and GO ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) 
• ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Breaking)
• ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monitoring) 
• ระบบเซ็นเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System 
• ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking) 
• ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic High Beam) 
• ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedal Misapplication Mitigation) 
• ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake) 
• ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)
• เทคโนโลยีระบบความปลอดภัย Active & Passive Safety 
• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti-Lock Brake System) พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-Force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) และระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก BOS (Brake Override System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว TCS (Traction Control System)
• ระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic Stability Control)
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA (Hill Start Assist)
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descent Control)
• ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control)
• โครงสร้างห้องโดยสาร Ultra-High Tensile แกร่ง และทนทาน

5. MU-X THE NEXT PEAK รุ่น ELEGANT ว้าวขึ้น! ระบบความปลอดภัยให้มาดี แต่ไร้พวงมาลัยไฟฟ้า

MU-X ELEGANT ก็ได้การปรับเปลี่ยนเช่นกัน เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ Dynamic Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบใหม่ DYNAMIC BLADE ดูสปอร์ตด้วยเส้น EMBRACE LINE และจากก่อนไมเนอร์เชนจ์ที่ได้ล้อขอบ 17 นิ้ว มารอบนี้ได้ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว แล้ว

ภายในออกแบบใหม่ยกระดับความหรูภายในห้องโดยสารให้ Modern Luxe กว่าเดิม ด้วยโทนสี Truffle Brown - Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class พร้อมเบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ใหม่สี Truffle Brown ที่นั่งสบาย โอบรับสรีระด้วยวัสดุ Cool Max ช่วยลดการสะสมความร้อน

เบาะที่นั่งโดยสาร 7 ที่นั่ง เบาะปรับไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง และเบาะนั่งตอน 2 และตอน 3 ปรับเอนได้พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของ เข้าออกที่นั่งตอน 3 แบบ One Touch

คอนโซลดีไซน์ใหม่สี Truffle Brown พรีเมี่ยมด้วยวัสดุ Piano Black - Satin Silver พร้อม Infotainment Display ใหม่ขนาด 9 นิ้ว แบบสัมผัส รองรับ Wireless Android Auto & Wireless Apple CarPlay 

Smart Tailgate with Step Sensor ได้ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าและหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวางด้วยระบบ Jam Protection

MU-X ไมเนอร์เชนจ์รอบนี้แม้จะได้ระบบความปลอดภัยอัดเเน่นมาอย่างดีเยี่ยม แต่ก็อยู่ในรุ่นท็อปและรุ่นรองท็อปเท่านั้น ในสองรุ่นย่อยแรกไม่ได้เยอะขนาดนั้น และก็ไม่มีพวงมาลัยไฟฟ้าด้วย แต่ระบบปลอดภัยถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันเเล้ว

• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
• ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTB
• เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 ตำแหน่ง
• เซ็นเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
• ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
• สัญญาณกันขโมย

5. MU-X Minorchange 2024 รุ่นเริ่มต้น Active เปลี่ยนแล้วน่าเล่นกว่าเดิม

MU-X Minorchange รุ่นเริ่มต้น หรือ รุ่น Active ได้กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ Dynamic Grill ให้อารมณ์สปอร์ตด้วยวัสดุ Dark Gray โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าและไฟท้ายใหม่! Dynamic Blade ดีไซน์สปอร์ตด้วยเส้น Embrace Line แต่ได้ลล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว นะไม่ใช่ 18 นิ้ว

มาพร้อมกับอุปกรณ์ที่เป็นพื้นฐานของทุกรุ่น ระบบความปลอดภัย การดีไซน์ภายในใหม่สวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องบอกว่าอยู่ในระดับที่โอเคใช้ได้ โดยจะมาพร้อมกับ

• ระบบหน่วงปิดไฟหน้า Follow-me-home
• สวิตช์ปรับระดับไฟหน้า
• กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า
• ไฟเลี้ยวด้านข้างตัวรถ
• มือจับเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ
• บันไดข้างสีดำ
• สปอยเลอร์หลัง
• เสาอากาศแบบมาตรฐาน
• ระบบปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลาได้
• พวงมาลัยแบบยูรีเทน
• พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
• ชุดมาตรวัดแบบมาตรฐาน
• สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
• คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนังสังเคราะห์
• แผงด้านข้างประตูตกแต่งด้วยวัสดุผ้า
• กระจกไฟฟ้า 4 บาน
• กระจกหน้าต่างแบบเลื่อนลงอัตโนมัติ เฉพาะฝั่งคนขับ
• เบาะนั่งคนขับปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
• เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับด้วยมือ 4 ทิศทาง
• เบาะนั่งแถวที่ 2 ปรับและพับได้ 60:40
• เบาะนั่งแถวที่ 2 พร้อมพนักวางแขนและช่องวางแก้ว
• เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับและพับได้ 50:50
• มือจับภายในรถ 7 ตำแหน่ง
• ช่องเก็บแว่นตา
• ไฟอ่านแผนที่
• ไฟส่องสว่าง สำหรับเบาะนั่งแถวที่ 2
• ไฟส่องสว่าง บริเวณพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
• กุญแจ Integrated Key
• หน้าจอกลางระบบสัมผัส ขนาด 8 นิ้ว
• กล้องมองภาพด้านหลัง พร้อมเส้นกะระยะหมุนตามพวงมาลัย
• ระบบเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย
• ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
• ระบบเชื่อมต่อ WiFi Mirroring
• ช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX
• ลำโพง 6 ตำแหน่ง
• เครื่องปรับอากาศแบบธรรมดา
• ระบบกรองฝุ่น PM2.5
• ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
• ช่องชาร์จไฟฟ้า DC 12V 3 ตำแหน่ง
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า 2 ตำแหน่ง
• ระบบปลดล็อกประตูอัตโนมัติ เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ ELR 3 จุด แบบปรับระดับได้
• เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ (Pretensioner with Load Limiter)
• เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุด สำหรับเบาะนั่งทุกตำแหน่ง
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS
•  ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรก BA
• ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดพลาด BOS
• ระบบควบคุมสเถียรภาพการทรงตัว ESC
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC
• ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC
• สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกระทันหัน ESS
• สัญญาณเสียงเตือนปิดไฟหน้า
• สัญญาณเสียงเตือนลืมกุญแจ

โดยรุ่นอื่นๆ ที่สูงกว่าก็จะมีออปชันที่เพิ่มเติมเยอะขึ้นไปเรื่อยๆ จากรุ่นเริ่มต้น หรือ รุ่น ACTIVE รุ่นนี้ที่มีราคาล้านต้นๆ ครับ

สรุป MU-X Minorchange 2024 มีอะไรใหม่บ้าง

• เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ RS
• ยกเลิกรุ่นย่อย 3.0 Ultimate 4×4
• ปรับปรุงเครื่องยนต์ ผ่านมาตรฐานไอเสีย EURO5
• เพิ่มระบบกรองเขม่าไอเสีย DPF (Diesel Particulate Filter)
• เพิ่มสวิตช์เผาเขม่าในกรองไอเสีย DPF
• เปลี่ยนกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Dynamic Grille
• เปลี่ยนกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมช่องรีดอากาศ Air Curtain
• เปลี่ยนกันชนหลังดีไซน์ใหม่
• เปลี่ยนไฟหน้าใหม่ แบบ Dynamic Blade
• เปลี่ยนไฟท้ายใหม่ แบบ Embrace Line
• เปลี่ยนล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่
• เปลี่ยนคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ แบบ Modern Luxe
• เปลี่ยนพวงมาลัยเป็นแบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า EPS สำหรับรุ่น Ultimate และ RS
• เปลี่ยนชุดมาตรวัดดีไซน์ใหม่ พร้อมจอ MID ขนาด 7 นิ้ว
• เปลี่ยนหน้าจอกลางใหม่ ขนาด 9 นิ้ว
• เพิ่มระบบเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย
• เพิ่มฟังก์ชัน Multitasking System แสดงสถานะตัวรถ และการทำงานของ ADAS
• เพิ่มกล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมระบบแสดงภาพใต้ท้องรถ (Transparency Mode) เฉพาะรุ่น RS
• เพิ่มระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Attention Assist)
• เพิ่มสีใหม่ สีเทา Eiger Gray Opaque
• อัปเกรดระบบความปลอดภัย ADAS เจเนอเรชันใหม่ล่าสุด เช่น

1. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System)
2. ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามรถคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist)
3. ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในสถานการณ์ฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping)
4. ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลนพร้อม LDW (Lane Departure Warning) พร้อมระบบดึงพวงมาลัยกลับ LDP (Lane Departure Prevention)
5. ระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert) พร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ RCTB (Rear Cross Traffic Brake)

โดย MU-X ไมเนอร์เชนจ์ 2024 มีทั้งหมด 6 สี ดังนี้

• สีเทา Eiger Gray Opaque
• สีขาวมุก Dolomite White Pearl (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)
• สีแดง Etna Mica
• สีดํา Bavarian Black Mica
• สีเงิน Iceberg Silver Mica
• สีเงิน Bohemian Silver Metallic

ใครคิดว่า MU-X ไมเนอร์เชนจ์ที่แพงขึ้นและได้ระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ครบครันมาให้แบบนี้มันคุ้มค่าเหมือนที่ผมคิด ก็แนะนำว่าซื้อเลยครับ

แต่ผมคิดว่ารุ่น รุ่น ACTIVE และ ELEGANT ของการ Minorchange ครั้งนี้มันก็ยังคงไม่มีอะไรมากมายแค่เปลี่ยนหน้าทาปากใหม่

ถ้าซื้อสองรุ่นเริ่มต้นอย่าง รุ่น ACTIVE ที่มีราคา 1,184,000 - 1,196,000 บาท กับรุ่น ELEGANT ที่มีราคา 1,419,000 - 1,476,000 บาท ผมว่ามาซื้อ MU-X ตัวท็อปและรองท็อปโฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์รอบนี้ดีกว่า เพราะหน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไรแถมยังได้ระบบความปลอดภัยและออปชันเยอะกว่า 2 รุ่นเริ่มต้นของการไมเนอร์เชนจ์รอบนี้ ซึ่ง MU-X มือสอง รุ่นที่ผมแนะนำให้ซื้อมีอยู่ 4 รุ่นย่อยครับ ตามด้านล่างนี้เลย

• Isuzu MU-X โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์ ปี 20-24 มือสอง รุ่น 3.0 Elegant เริ่ม 999,000 บาท
• Isuzu MU-X โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์ ปี 20-24 มือสอง รุ่น 3.0 Ultimate เริ่ม 979,000 บาท
• Isuzu MU-X โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์ ปี 20-24 มือสอง รุ่น 3.0 Ultimate 4WD เริ่ม 920,000 บาท
• Isuzu MU-X โฉมก่อนไมเนอร์เชนจ์ ปี 20-24 มือสอง รุ่น 3.0 Phantom Collection Ultimate 4WD เริ่ม 1,350,000 บาท

โหลดหรือยัง? แอป one2car - NEXT GEN! CAR APP

• Smart Search: หารถง่าย ฟังก์ชันครบ ข้อมูลชัด!
• Qualified Car: รถคุณภาพ ตรวจสภาพแล้ว พร้อมรายงานรถ
• Most Trusted Seller: คัดผู้ขายให้แล้ว ไม่ต้องกลัวมิจฉาชีพ
• Hot Deals: พบกับ Big Sale ลดแรงทุกเดือน!
• My Garage: ระบบผู้จัดการส่วนตัวให้รถคุณ ทุกเรื่องรถ จบในที่เดียว
• Car Tax Renawal: ต่อภาษีรถยนต์สะดวกกว่าที่เคย ไม่ต้องกลัวลืม
• Car Price: อยากขายรถแต่ไม่รู้ราคา เช็กเลย! รู้ผลใน 1 นาที ต้องการขายก็ทำได้เลย
• Car Financing: สินเชื่อรถมือสอง จัดไฟแนนซ์ง่ายกับ Partner ของเรา พร้อมข้อเสนอพิเศษ
• Car Insurance: เปรียบเทียบเบี้ย ต่อประกันรถยนต์ พร้อมดีลสุดพิเศษจากบริษัทชั้นนำ
• Extended Warranty: ประกันอะไหล่รถ หมดห่วงเรื่องอะไหล่รถมือสอง
• one2car Story: คลิปรีวิวรถจากคนขาย คอนเทนต์เกี่ยวกับยานยนต์

Apple Store : https://bit.ly/o2c_apple_store

Google Play Store : https://bit.ly/o2c_Google_Play_Store

ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง one2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน

อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com